แสง 2700K กับ 4000K ต่างกันอย่างไร?

ในการเลือกแสงไฟที่เหมาะกับแต่ละพื้นที่ “ค่าอุณหภูมิสี” หรือที่เรียกว่า Color Temperature ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่หลายคนมักสับสน โดยเฉพาะระหว่างสองค่าที่พบได้บ่อยที่สุดอย่าง 2700K และ 4000K — แล้วทั้งสองแบบนี้แตกต่างกันอย่างไร?

บทความนี้จะช่วยอธิบายให้เข้าใจง่าย พร้อมแนะนำให้คุณเลือกแสงที่ใช่สำหรับบ้านหรือโปรเจกต์ของคุณ

🔶 Color Temperature คืออะไร?

Color Temperature คือการวัด “โทนสีของแสง” โดยใช้หน่วยเป็น เคลวิน (Kelvin) ซึ่งบอกลักษณะของแสงตั้งแต่โทนอุ่นแบบเหลือง ไปจนถึงโทนเย็นแบบขาวฟ้า

• ค่าเคลวินต่ำ (เช่น 2700K) = แสงโทนอุ่น สบายตา

• ค่าเคลวินสูง (เช่น 4000K) = แสงโทนขาว เย็นและคมชัด

🌙 2700K – แสงอบอุ่น สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย

แสง 2700K เป็นโทนแสงเหลืองนวล ใกล้เคียงกับหลอดไส้แบบดั้งเดิม ให้ความรู้สึก อบอุ่น นุ่มนวล และเป็นกันเอง

เหมาะกับพื้นที่:

ห้องนอน

ห้องนั่งเล่น

พื้นที่รับประทานอาหาร

โรงแรม วิลล่า รีสอร์ต

ทำไมต้องเลือก 2700K?
✅ สร้างบรรยากาศอบอุ่นน่าพักผ่อน
✅ ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายก่อนนอน
✅ สีผิวและของตกแต่งดูสวยละมุน

💡 4000K – แสงขาวสมดุล สว่างชัดเจน

แสง 4000K หรือที่เรียกว่า “Cool White” ให้ความรู้สึกสะอาดสว่าง สบายตาแต่ไม่ฟ้าจนเกินไป เป็นโทนแสงที่ให้สมดุลระหว่างอบอุ่นและเย็น

เหมาะกับพื้นที่:

ห้องครัว

ห้องน้ำ

ออฟฟิศ

โชว์รูมและร้านค้า

ทำไมต้องเลือก 4000K?
✅ มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน
✅ เหมาะกับการทำงานหรืออ่านหนังสือ
✅ เพิ่มสมาธิและความรู้สึกกระฉับกระเฉง

🆚 เปรียบเทียบแบบชัด ๆ

🎯 สรุป: เลือกแสงไหนดีกว่ากัน?

คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ

• หากคุณต้องการบรรยากาศ อบอุ่น สบาย และโรแมนติก → แนะนำ 2700K

• หากคุณต้องการความ คมชัด สมดุล และรู้สึกกระปรี้กระเปร่า → เลือก 4000K

ในบ้านยุคใหม่ นิยมใช้ ทั้งสองแบบร่วมกัน เช่น โซนพักผ่อนใช้ 2700K ส่วนพื้นที่ทำงานหรือทำอาหารใช้ 4000K เพราะ แสงที่ดี ควรตอบโจทย์ตามฟังก์ชันการใช้งาน

💬 เขียนด้วยแสงและความเข้าใจ,

Evan Lightwell
เพราะแสงไม่ใช่แค่ความสว่าง — แต่คืออารมณ์และความรู้สึก